อนุสาวรีย์ท่านนักบุญร็อค
ด้านหน้าวัด
ท่านนักบุญร็อค เกิดที่เมือง Montpellier ประเทศฝรั่งเศส
เมื่อปี ค.ศ.1350 (พ.ศ.1893) และถึงแก่กรรมที่เมือง
Angera แคว้น Lombardy ในปี ค.ศ.1378
(พ.ศ.1921) โดยมีอายุเพียง 28 ปี
บิดาของท่านเป็นคนร่ำรวย
และเป็นข้าหลวงของเมือง Montpellier
มารดาของท่านเป็นชาวแคว้น Lombardy เมื่อท่านเกิดมานั้น
มีเครื่องหมายกางเขนสีแดงบนอกของท่าน ว่ากันว่า เนื่องมาจากบิดา-มารดาของท่าน ได้ภาวนาขอบุตรจากพระเป็นเจ้าเป็นเวลาหลายปี
บิดา-มารดาของท่าน ได้อบรมเลี้ยงดูท่าน ให้เป็นคริสตังที่ดี ทั้งท่านทั้ง 2
ยังทำตัวเป็นตัวอย่างที่ดี ทั้งในด้านความเชื่อ และความเมตตาต่อผู้ยากไร้
ท่านนักบุญร็อค
ได้รับการศึกษาทางด้านการแพทย์ ที่มหาวิทยาลัยแห่งเมือง Montpellier และเมื่อท่านอายุได้
20 ปี ทั้งบิดา-มารดาของท่านก็ถึงแก่กรรม
รูปปั้นท่านนักบุญร็อค
เดิมติดตั้งไว้หลังพระแท่นวัดหลังเก่า
ท่านได้ตัดสินใจ
แจกจ่ายทรัพย์สมบัติที่ท่านมี ให้แก่คนยากจน และมอบตำแหน่งข้าหลวงให้แก่ลุง
ผู้เป็นญาติทางมารดาของท่าน จากนั้น ท่านได้ออกจาริกแสวงบุญไปยังกรุงโรม
ขณะนั้น เกิดกาฬโรค
ระบาดไปตามเมืองต่างๆ ท่านได้แวะที่เมือง Aquapendente และให้การรักษาผู้ป่วยด้วยโรคร้ายนี้จนหาย
ด้วยวิชาด้านการแพทย์ของท่าน และการทำเครื่องหมายกางเขน จากนั้น
ท่านได้เดินทางไปยังเมือง Cesena และเมืองอื่นๆ ใกล้เคียง
เพื่อให้การรักษาพยาบาลผู้ป่วยด้วยพรพิเศษของท่าน
ท่านเดินทางถึงกรุงโรม ในปี ค.ศ.1371(พ.ศ.1914)
และได้ออกเดินทางตระเวณรักษาพยาบาลผู้ป่วยในเมืองอื่นๆ อีก จนถึงเมือง
Piacenza ที่เมืองนี้ท่านได้ติดโรคร้าย
ท่านจึงหลบไปอยู่ที่กระท่อมในป่าใกล้ๆ เมือง
รูปปั้นท่านนักบุญร็อคที่ใช้ในการแห่
ณ ที่นี้ ท่านได้พบสุนัขตัวหนึ่ง
เป็นของเศรษฐีผู้มีนามว่า Gothard
ซึ่งคอยคาบขนมปังมาให้ท่านกินประทังชีวิตและพาท่านไปยังธารน้ำ เพื่อใช้น้ำดื่มและชำระบาดแผล
จนกระทั่งเศรษฐี Gothard เกิดสงสัยที่สุนัขของตน แอบขโมยขนมปังออกไปจากบ้าน
จึงได้ติดตามสุนัขมาจนพบท่านนักบุญร็อค เขาได้ให้การดูแลรักษาจนท่านนักบุญร็อคหายเป็นปกติ
เมื่อท่านหายดีแล้ว
ท่านได้เดินทางกลับบ้านเกิด ที่เมือง Montpellier ระหว่างทาง ท่านถูกจับและจำคุกที่เมือง
Angera แค้วน Lombardy ในข้อหา เป็นสายลับที่ปลอมตัวมาในคราบของผู้แสวงบุญ
(นักเขียนบางท่าน บันทึกว่า ผู้ที่สั่งจับและจำคุกท่าน เป็นลุงของท่านเอง
ซึ่งจำท่านไม่ได้ และท่านมิได้เปิดเผยตัวเองว่าท่านเป็นใคร)
ท่านถึงแก่กรรมในอีก 5 ปีต่อมาในคุกนั้นเอง
หลังจากที่ท่านถึงแก่กรรม จึงพบว่าท่านมีเครื่องหมายการเขนบนอกของท่าน
อันเป็นหลักฐานแสดงตัวของท่าน มีการจัดงานศพให้ท่านอย่างสมเกียรติ อัศจรรย์ต่างๆ
ที่ท่านได้ทำไว้ เป็นเครื่องยืนยันความศักดิ์สิทธิ์ในชีวิตของท่าน
อนุสาวรีย์ท่านนักบุญร็อค
ถ่ายจากด้านหน้า
แม้ท่านจะเสียชีวิตไปแล้ว
แต่ท่านยังได้ทำอัศจรรย์ช่วยเหลือผู้คนอีกมากมาย เช่น
ค.ศ.1414 (พ.ศ.1957)
- ระหว่างที่มีการประชุมสภาสังคายนาที่เมือง Constance ได้เกิดโรคระบาดขึ้น บรรดาเหล่าสังฆราช ได้ขอให้สัตบุรุษร่วมกันสวดภาวนา ขอให้ท่านนักบุญร็อคช่วยให้โรคร้ายหายไป
และพวกเขาก็ได้รับตามที่ขอ
เดือนมกราคม ค.ศ.1439 (พ.ศ.1982)
- เกิดโรคระบาดที่เมือง Ferrara ประเทศ Italy
มีผู้สวดภาวนาขอให้ท่านช่วย โรคร้ายก็หายสิ้น
ค.ศ.1485 (พ.ศ.2028)
- เกิดโรคระบาดที่ Venice มีผู้ขโมยศพของท่านไปยัง
Venice ผู้คนก็หายจากโรคทั้งสิ้น
ณ เมือง Venice ถือได้ว่า
เป็นที่ๆ ได้เก็บรักษาพระธาตุของท่านไว้มากที่สุด เชื่อกันว่า
ท่านเป็นสมาชิกชั้นที่ 3 ของคณะฟรังซิสกัน แต่ไม่มีหลักฐานยืนยันในเรื่องนี้
ค.ศ.1629 (พ.ศ.2172)
พระสันตปาปาอุรบาโนที่ 8 ได้ประกาศรับรองอัศจรรย์ต่างๆ
ที่ท่านทำ และกำหนดให้ วันที่ 16 สิงหาคม ของทุกปี
เป็นวันฉลองท่านนักบุญร็อค ความเชื่อและความศรัทธาต่อท่าน แพร่หลายไป
จนมีผู้ให้สมญานามของท่านว่าเป็น "องค์อุปถัมป์ของผู้ป่วย"
Copyright © 2003 Catholic Church of Saint Roch, all rights
reserved.
No comments:
Post a Comment