Tuesday, April 2, 2013

ประวัตินักบุญร็อค



อนุสาวรีย์ท่านนักบุญร็อค ด้านหน้าวัด 
ท่านนักบุญร็อค เกิดที่เมือง Montpellier ประเทศฝรั่งเศส เมื่อปี ค.ศ.1350 (พ.ศ.1893) และถึงแก่กรรมที่เมือง Angera แคว้น Lombardy ในปี ค.ศ.1378 (พ.ศ.1921) โดยมีอายุเพียง 28 ปี
บิดาของท่านเป็นคนร่ำรวย และเป็นข้าหลวงของเมือง Montpellier มารดาของท่านเป็นชาวแคว้น Lombardy เมื่อท่านเกิดมานั้น มีเครื่องหมายกางเขนสีแดงบนอกของท่าน ว่ากันว่า เนื่องมาจากบิดา-มารดาของท่าน ได้ภาวนาขอบุตรจากพระเป็นเจ้าเป็นเวลาหลายปี บิดา-มารดาของท่าน ได้อบรมเลี้ยงดูท่าน ให้เป็นคริสตังที่ดี ทั้งท่านทั้ง 2 ยังทำตัวเป็นตัวอย่างที่ดี ทั้งในด้านความเชื่อ และความเมตตาต่อผู้ยากไร้
ท่านนักบุญร็อค ได้รับการศึกษาทางด้านการแพทย์ ที่มหาวิทยาลัยแห่งเมือง Montpellier และเมื่อท่านอายุได้ 20 ปี ทั้งบิดา-มารดาของท่านก็ถึงแก่กรรม


รูปปั้นท่านนักบุญร็อค เดิมติดตั้งไว้หลังพระแท่นวัดหลังเก่า
ท่านได้ตัดสินใจ แจกจ่ายทรัพย์สมบัติที่ท่านมี ให้แก่คนยากจน และมอบตำแหน่งข้าหลวงให้แก่ลุง ผู้เป็นญาติทางมารดาของท่าน จากนั้น ท่านได้ออกจาริกแสวงบุญไปยังกรุงโรม
ขณะนั้น เกิดกาฬโรค ระบาดไปตามเมืองต่างๆ ท่านได้แวะที่เมือง Aquapendente และให้การรักษาผู้ป่วยด้วยโรคร้ายนี้จนหาย ด้วยวิชาด้านการแพทย์ของท่าน และการทำเครื่องหมายกางเขน จากนั้น ท่านได้เดินทางไปยังเมือง Cesena และเมืองอื่นๆ ใกล้เคียง เพื่อให้การรักษาพยาบาลผู้ป่วยด้วยพรพิเศษของท่าน
ท่านเดินทางถึงกรุงโรม ในปี ค.ศ.1371(พ.ศ.1914) และได้ออกเดินทางตระเวณรักษาพยาบาลผู้ป่วยในเมืองอื่นๆ อีก จนถึงเมือง Piacenza ที่เมืองนี้ท่านได้ติดโรคร้าย ท่านจึงหลบไปอยู่ที่กระท่อมในป่าใกล้ๆ เมือง


รูปปั้นท่านนักบุญร็อคที่ใช้ในการแห่
ณ ที่นี้ ท่านได้พบสุนัขตัวหนึ่ง เป็นของเศรษฐีผู้มีนามว่า Gothard ซึ่งคอยคาบขนมปังมาให้ท่านกินประทังชีวิตและพาท่านไปยังธารน้ำ เพื่อใช้น้ำดื่มและชำระบาดแผล จนกระทั่งเศรษฐี Gothard เกิดสงสัยที่สุนัขของตน แอบขโมยขนมปังออกไปจากบ้าน จึงได้ติดตามสุนัขมาจนพบท่านนักบุญร็อค เขาได้ให้การดูแลรักษาจนท่านนักบุญร็อคหายเป็นปกติ
เมื่อท่านหายดีแล้ว ท่านได้เดินทางกลับบ้านเกิด ที่เมือง Montpellier ระหว่างทาง ท่านถูกจับและจำคุกที่เมือง Angera แค้วน Lombardy ในข้อหา เป็นสายลับที่ปลอมตัวมาในคราบของผู้แสวงบุญ (นักเขียนบางท่าน บันทึกว่า ผู้ที่สั่งจับและจำคุกท่าน เป็นลุงของท่านเอง ซึ่งจำท่านไม่ได้ และท่านมิได้เปิดเผยตัวเองว่าท่านเป็นใคร)
ท่านถึงแก่กรรมในอีก 5 ปีต่อมาในคุกนั้นเอง หลังจากที่ท่านถึงแก่กรรม จึงพบว่าท่านมีเครื่องหมายการเขนบนอกของท่าน อันเป็นหลักฐานแสดงตัวของท่าน มีการจัดงานศพให้ท่านอย่างสมเกียรติ อัศจรรย์ต่างๆ ที่ท่านได้ทำไว้ เป็นเครื่องยืนยันความศักดิ์สิทธิ์ในชีวิตของท่าน


อนุสาวรีย์ท่านนักบุญร็อค ถ่ายจากด้านหน้า
แม้ท่านจะเสียชีวิตไปแล้ว แต่ท่านยังได้ทำอัศจรรย์ช่วยเหลือผู้คนอีกมากมาย เช่น
ค.ศ.1414 (พ.ศ.1957) - ระหว่างที่มีการประชุมสภาสังคายนาที่เมือง Constance ได้เกิดโรคระบาดขึ้น บรรดาเหล่าสังฆราช ได้ขอให้สัตบุรุษร่วมกันสวดภาวนา ขอให้ท่านนักบุญร็อคช่วยให้โรคร้ายหายไป และพวกเขาก็ได้รับตามที่ขอ
เดือนมกราคม ค.ศ.1439 (พ.ศ.1982) - เกิดโรคระบาดที่เมือง Ferrara ประเทศ Italy มีผู้สวดภาวนาขอให้ท่านช่วย โรคร้ายก็หายสิ้น
ค.ศ.1485 (พ.ศ.2028) - เกิดโรคระบาดที่ Venice มีผู้ขโมยศพของท่านไปยัง Venice ผู้คนก็หายจากโรคทั้งสิ้น
ณ เมือง Venice ถือได้ว่า เป็นที่ๆ ได้เก็บรักษาพระธาตุของท่านไว้มากที่สุด เชื่อกันว่า ท่านเป็นสมาชิกชั้นที่ 3 ของคณะฟรังซิสกัน แต่ไม่มีหลักฐานยืนยันในเรื่องนี้
ค.ศ.1629 (พ.ศ.2172) พระสันตปาปาอุรบาโนที่ 8 ได้ประกาศรับรองอัศจรรย์ต่างๆ ที่ท่านทำ และกำหนดให้ วันที่ 16 สิงหาคม ของทุกปี เป็นวันฉลองท่านนักบุญร็อค ความเชื่อและความศรัทธาต่อท่าน แพร่หลายไป จนมีผู้ให้สมญานามของท่านว่าเป็น "องค์อุปถัมป์ของผู้ป่วย"


Copyright © 2003 Catholic Church of Saint Roch, all rights reserved.

No comments: